สาวจีนกลืนสร้อยทอง ที่แฟนหนุ่มซ่อนไว้ในเค้ก
สาวจีนกลืนสร้อยคอทองคำลงท้อง หลังแฟนหนุ่มซ่อนไว้ในเค้กหวังเซอร์ไพรส์วันเกิด จนต้องหามส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัด
(30 ก.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หวาง ซื่อ สาวชาวจีน จากเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ได้กลืนกินสร้อยคอทองคำ มูลค่ากว่า 24,000 บาท ที่แฟนหนุ่มตั้งใจซุกซ่อนไว้ในก้อนขนมเค้ก เพื่อเป็นของขวัญเซอร์ไพรส์วันเกิดปีที่ 22 ของเธอ จนต้องหามตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรับการผ่าตัดนำสร้อยคอทองคำออกจากท้อง
โดยทีมแพทย์ลงความเห็นหลังจากเอ็กซเรย์ว่า หญิงสาวเคราะห์ร้ายรายนี้ ต้องใช้วิธีการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง เพื่อนำเอาสร้อยคอทองคำออกจากท้องของผู้ป่วย
ขณะที่ เสี่ยว ลี แฟนหนุ่มวัย 22 ปี กล่าวว่า ตนคิดว่ามันจะเป็นการแสดงให้เธอรับรู้ ว่าตนรักเธอมากแค่ไหน และคิดว่าเธอจะกัดเจอมันตั้งแต่คำแรกและคายออกมา แต่สุดท้ายตนต้องเฉลยความจริงกับเธอขณะที่นั่งรถไปโรงพยาบาล อย่างไรก็ตามเธอผ่านการผ่าตัด และได้สร้อยคอคืนแล้ว แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าเธอยังอยากจะสวมมันหรือไม่
Pygmy Marmoset (ปิ๊กมี่ มาร์โมเสท) ลิงตัวเล็กที่สุดในโลก
เจ้า จ๋อตัวจิ๋วที่ว่านี้เป็นลิงพันธุ์ “ปิ๊กมี่ มาร์โมเสท” (Pygmy Marmoset) หรือเรียกกันง่าย ๆ ว่าลิงแคระมาร์โมเสท ส่วนที่บอกว่าเป็นลิงที่ตัวเล้กที่สุดในโลกนั้นก็เพราะว่า ลิงแคระมาร์โมเสทมีขนาดตัวที่ใหญ่ที่สุดเพียงแค่ 13 เซนติเมตรเท่านั้น แถมยังมีน้ำหนักโดยเฉลี่ยเพียงแค่ 130 กรัม หรือถ้าจะให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เบากว่าผลแอปเปิ้ล 1 ลูกนั่นเอง
ลิงแคระมาร์โมเสท เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะพบเจอในเขตป่าฝนของประเทศในแถบอเมริกาใต้ ทั้ง บราซิล โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และโบลิเวีย ทั้งนี้ หลาย ๆ คน มักจะเรียกลิงแคระมาร์โมเสทมากมายหลายชื่อ ทั้ง ลิงกระเป๋า ลิงนิ้วมือ และอื่น ๆ เยอะแยะมากมาย และด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของมันนี้เอง จึงทำให้มีผู้คนมากมายอยากจะเอามันไปเป็นสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะเหล่านักเลี้ยงสัตว์หายากด้วยแล้ว ยิ่งอยากจะได้ลิงแคระมาร์โมเสทไปเลี้ยงกันมากมายเลยทีเดียว
ทั้ง นี้ ลิงแคระมาร์โมเสท ถือเป็นสัตว์ที่มีราคาค่าตัวที่ค่อนข้างจะสูงเอาการ เมื่อเทียบกับขนาดตัวของมัน เนื่องจากมันเป็นที่กล่าวถึงและได้รับความนิยมอย่างมากในโลกของอินเทอร์เน็ต และสัตว์เลี้ยงของคนมีสตุ้งสตางค์ โดยบาง ตัวมีราคาสูงถึงกว่า 100,000 บาทเลยด้วย แถมในปัจจุบัน ประเทศไทยเราเอง ยังมีทั้งผู้ที่ได้รับอนุญาตนำเข้ามาจำหน่ายอย่างถูกกฏหมายและลักลอบเข้ามา ขายกันอย่างเยอะแยะมากมาย
เรื่องแปลก หนุ่มจีนยัดงูเข้าจมูกปาก ทำไปได้!!
สำ หรับนายเฟย กับการร้อยงูแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่สบายมาก ๆ เพราะในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เขาใช้ชีวิตและโชว์แบบเสี่ยงตายกับงูมาโดยตลอด ฉะนั้น ความชำนาญในการเล่นงูจึงเป็นเรื่องที่หายห่วง และถ้าถามว่าเคยเกิดอันตราย เช่น โดนงูฉก งูกัดบ้างหรือไม่ ก็บอกเลยว่าไม่มี จะมีก็เพียงแต่อุบัติเหตุครั้งใหญ่ที่เคยกลืนงูลงท้อง แต่โชคดีที่ว่า งูเจ้ากรรมดันตายในะหว่างที่อยู่ในท้องของเขาเสียก่อน ไม่อย่างงั้นแล้ว ในท้องของเขาอาจจะเต็มไปด้วยพิษงูก็เป็นได้
เอาเป็นว่าใครที่ยังนึกไม่ออก มองไม่เห็นภาพว่านายเฟยเขาทำอะไรยังไงกับงู ก็ลองเชิญชมได้จากคลิปที่เรานำมาฝากนี้ได้เลย แต่ขอแนะนำว่าอย่าดูในระหว่างกินข้าวนะจ๊ะ ไม่งั้นจะหาว่าไม่เตือนไม่ได้น้าาา..
เรื่องแปลก หนุ่มจีนยัดงูเข้าจมูกปาก
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย weirdhutvideo
ชายอินโดป่วยประหลาด เป็นเนื้องอกอัปลักษณ์ทั่วร่าง
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์เดอะซันของอังกฤษเปิดเผยเรื่องราวสุดน่าเห็นใจของชายชาวอินโดนีเซียรายหนึ่ง ที่ป่วยเป็นโรคประหลาด เป็นเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำทั่วร่างกาย จนกลายเป็นคนอัปลักษณ์มายาวนานกว่า 30 ปี
โดยชายรายนี้ คือ นายจันทรา วิศณุ ชาวอินโดนีเซียวัย 57 ปี ได้เริ่มป่วยด้วยภาวะเนื้องอกบนผิวตั้งแต่อายุได้เพียง 19 ปี ซึ่งในตอนนั้น เนื้องอกตะปุ่มตะป่ำนี้ได้เกิดขึ้นบนใบหน้าเท่านั้น แต่แล้วหลังจากนั้นมันก็ลามไปผุดที่แผ่นหลัง และทั่วร่างกายของเขาในลักษณะค่อย ๆ ลุกลามเรื่อยมา แม้ว่าจะไปพบแพทย์หลาย ๆ คนมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วแต่ก็ยังไม่มีแพทย์คนไหนสามารถรักษาหาย เนื้องอกประหลาดนี้ยิ่งผุดขึ้นทุกตารางนิ้วของร่างกาย จนกระทั่งนายจันทราอายุได้ 32 ปี ผิวหนังของเขาก็เต็มไปด้วยเนื้องอกตะปุ่มตะป่ำอย่างที่เห็น ซึ่งเจ้าตัวก็ต้องทำใจอยู่นานหลายปีกว่าจะยอมรับสภาพร่างกายของตัวเองและพยายามใช้ชีวิตเฉกเช่นคนปกติได้
สำหรับภาวะผิวตะปุ่มตะป่ำของจันทรานั้น แพทย์ผิวหนังได้อธิบายว่า เป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ไม่อาจรักษาหาย และอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติของระบบประสาทที่ทำให้เกิดเนื้องอกขึ้นตามผิวพรรณและกระดูก
ส่วนทางด้านเจ้าตัว ก็ได้เปิดเผยถึงอาการผิดปกติของตัวเองว่า “ไม่มีการรักษาทางใดที่จะรักษาผมได้ ผมตระเวนหาหมอทุกที่และผลออกมาก็คือ ไม่มีใครรู้ว่าจะรักษาผมอย่างไร ผมจึงทำใจยอมรับ และไม่ไปหมออีก แต่โรคประหลาดนี้ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตผมมากนะ เพราะเนื้องอกพวกนี้มันคันมาก และจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อนในช่วงฤดูร้อนเป็นพิเศษ ก็ทรมานอยู่ไม่น้อยเลย”
และหากจะถามถึงความรู้สึกของจันทรา ก็น่าเห็นใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาบอกว่าเจ้าโรคประหลาดนี้ทำให้เขาเป็นตัวน่ารังเกียจในสังคมไปเลย โดยจันทราได้เปิดเผยว่า “ผมต้องใส่แจ็คเก็ตถึง 3 ตัว แว่นกันแดดและสวมหมวกมิดชิดทุกครั้งที่ออกจากบ้าน แต่มันก็ปิดไม่มิดหรอก และพอออกไปเจอผู้คน พวกเขาก็ไม่ได้เยาะเย้ยเหยียดหยันผมโดยตรงนะ แต่พวกเขาจะจ้องมองและพยายามขยับหนีไปห่าง ๆ ผมให้มากที่สุด เพราะพวกเขากลัวว่าจะติดโรคประหลาดนี้จากผม ทำให้หลายครั้งผมรู้สึกโกรธและรู้สึกแย่มาก ๆ ที่ผู้คนมีปฎิกิริยาต่อผมแตกต่างจากคนอื่น แต่ปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อผมก็ไม่ได้ทำให้ผมหลบเลี่ยงจากการพบปะผู้คนเลย ผมใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ไปรับลูกที่โรงเรียนเหมือนพ่อคนอื่น ๆ แต่ก็จะพยายามใส่หมวกปิดใบหน้าเอาไว้เพราะกลัวเพื่อนลูกจะล้อเอานั่นแหละ”
ส่วนทางด้านนานิค ตรี ฮาร์ยานี ภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 33 ปีของจันทรา ซึ่งถือว่าเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีที่สุดในโลก ได้เปิดเผยเกี่ยวกับอาการประหลาดของสามีว่า “ตั้งแต่จันทราเริ่มป่วยประหลาด เขาก็พยายามบีบให้ฉันไปจากชีวิตเขาและอย่ากลับมาอีก แต่ฉันยืนยันว่าไม่ไป การได้มองเห็นเขาพยายามต่อสู้กับโรคประหลาดนี้มาโดยตลอดทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนเข้มแข็ง ไม่ใช่คนอ่อนแอเลย”
อย่างไรก็ดี แม้ว่าจันทราจะมีจิตใจที่เข้มแข็งที่สามารถต่อสู้และทำใจรับสภาพของตัวเองได้แล้ว แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าโชคชะตาจะกลั่นแกล้งให้เขามีเรื่องต้องทุกข์ใจเช่นเดียวกับตอนที่เริ่มเป็นเนื้องอกใหม่ ๆ อีกครั้ง เพราะขณะนี้ มาร์ติน อนันดา ลูกชายวัย 32 ปี และลิส จันทรา ลูกสาววัย 26 ปีของเขา ก็เริ่มมีเนื้องอกเล็กในลักษณะเดียวกับเขาผุดขึ้นตามผิวหนังเช่นกัน เขาจึงรวบรวมความกล้า เปิดเผยใบหน้าตัวเองและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในครั้งนี้ ด้วยความหวังลึก ๆ ว่า จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสักคนเข้ามาให้ความช่วยเหลือลูก ๆ ของเขาจนหายดี ไม่ต้องแบกรับกับความอัปลักษณ์อย่างที่เขาเคยเป็นมาเกือบทั้งชีวิต
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Aman Rochman
หนุ่มพิการนอร์เวย์ เปลี่ยนแขนกุดตัวเองให้เป็นหัวโลมา
ภาย หลังจากที่ได้รับการผ่าตัด เขาก็มองไปที่แขนที่ถูกตัดออกไปนั้นมีสภาพเหมือนหัวปลาโลมา เลยเกิดไอเดียในการสักรูปโลมา จึงติดต่อไปหานายวาลิโอ สกา ช่างสักชาวบัลแกเรียเปลี่ยนสภาพแขนที่กุดของเขา มาเป็นสุดยอดผลงานศิลปะสามมิติ รอยสักรูปหัวปลาโลมา ให้มาเวียนว่ายบนแขนเขาแทน
ทั้งนี้ ตามรายงานระบุว่า นายวาลิโอ สกา เจ้าของธุรกิจร้านสัก “โซเฟีย อิ้งค์” ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ในการสร้างสรรค์รอยสักนี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ค Heine Bræck
Hello world!
Welcome to WordPress.com. After you read this, you should delete and write your own post, with a new title above. Or hit Add New on the left (of the admin dashboard) to start a fresh post.
Here are some suggestions for your first post.
- You can find new ideas for what to blog about by reading the Daily Post.
- Add PressThis to your browser. It creates a new blog post for you about any interesting page you read on the web.
- Make some changes to this page, and then hit preview on the right. You can always preview any post or edit it before you share it to the world.